แนะนำเผื่อเป็นไอเดียในการประกอบอาชีพ สร้างอาชีพเสริม หารายได้เสริมช่วง holiday
แนะนำเผื่อเป็นไอเดียในการประกอบอาชีพ สร้างอาชีพเสริม หารายได้เสริมช่วง holiday รักอาชีพ : อาหารเรียกน้ำย่อยของคนไทยมีอยู่มากมายหลายอย่าง เช่นเปาะเปี๊ยะสด-ทอดปั้นขลิบไส้ปลา, ข้าวเกรียบปากหม้อ, สาคูไส้หมูฯลฯแต่ถ้าพูดถึง "ถุงทองทอด" อาชีพเสริม สร้างรายได้จากการขายถุงทองทอดซึ่งเป็น“อาหารว่าง ชื่อมงคล ของคนไทย
สะคราญ ผ่องนรา หรือเจ๊ต่าย ทำ "ถุงทองทอด" ขายอยู่ย่านบ้านพักรถไฟ กม.11 เจ้าตัวเล่าให้ฟังถึงที่มาของอาชีพนี้ว่าที่บ้านมีอาชีพขายของชำมานานหลายสิบปีแล้ว พอดีลูกสาวเรียนจบมาแล้วยังไม่มีงานทำผู้เป็นป้าได้สูตรถุงทองทอดมาจากเพื่อนจึงเอาสูตรมาให้หลานสาวลองทำดูเผื่อจะทำขายระหว่างรองาน โดยคุณแม่ของเจ๊ต่าย ก็มีฝีมือในการทำอาหารจึงนำสูตรดังกล่าวมาลองฝึกทำให้หลานสาวดูแต่สูตรถุงทองที่ได้มารสชาติยังไม่ถูกใจจึงมีการดัดแปลงสูตรตามแบบที่ชอบเมื่อทุกอย่างลงตัวก็เริ่มทำขายปรากฏว่ากระแสตอบรับดีมากอาจเพราะหาทานยากดูแปลกใครเห็นก็สนใจจึงซื้อไปชิมกัน
ต่อมาลูกสาวได้งานเป็นเลขาฯอยู่บริษัทปูนซิเมนต์ ก็เสียดายเพราะลูกค้าติดมากทำถุงทองทอดขายวันละ 1,000-1,200 ถุงขายแต่เช้าไม่เกิน 10.00 น. ก็หมดจึงรับช่วงทำขายต่อจากลูกสาวและยังเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าโดยเพิ่มเปาะเปี๊ยะทอดด้วยซึ่งใช้วัตถุดิบตัวเดียวกันกับการทำถุงทองทอดและยังทำทอดมันปลากรายขายด้วยก็ขายดีจนต้องซื้อเครื่องตีปลามาตีเองเรียกว่าสินค้าที่ร้านขายดีทุกตัวพอเห็นเงินมันก็สนุกจึงขยับขยายที่ขายเพิ่มมาตรงหลัง ปตท.สำนักงานใหญ่ ขายจันทร์-ศุกร์เวลา06.00–12.00 น.
สำหรับการทำ "ถุงทองทอด" อุปกรณ์หลักๆที่ต้องใช้ก็มี เตาแก๊ส, กระทะ, ทัพพี, ตะแกรง, กระชอน, กะละมัง, ถาดสเตนเลส, เขียง, ครก และเครื่องมืออื่น ๆ ที่สามารถหยิบยืมเอาได้จากในครัว
วัตถุดิบ / ส่วนผสมประกอบด้วย
แผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะ(ขนาด4นิ้ว), หมูสับติดมัน, มันแกวสับละเอียด, แครอทต้ม(หั่นเป็นสี่เหลี่ยมเล็กๆ),พริกไทย, รากผักชี, กระเทียม, ซีอิ๊วขาว, น้ำตาลทราย, ต้นหอมหั่นเส้นตามยาว(สำหรับมัดปากถุง) และน้ำมันสำหรับใช้ทอด
ขั้นตอนการทำถุงทองทอดเริ่มจากการทำ "ไส้" ถุงทองก่อนเป็นอันดับแรก โดยการเอารากผักชีกระเทียมพริกไทยเกลือป่นมาใส่รวมกันในครกแล้วโขลกให้ละเอียดเสร็จแล้วนำไปผสมกับหมูสับติดมันที่เตรียมไว้เคล้าพอให้ส่วนผสมเข้ากันทั่ว จากนั้นนำมันแกวสับละเอียดและแครอทต้มสุกที่เตรียมไว้ใส่ตามลงไปคลุกเคล้าส่วนผสมให้ทั่วอีกครั้งปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและน้ำตาลทรายนิดหน่อยใช้มือนวดส่วนผสมให้เข้ากันจนเหนียวจากนั้นใช้ผ้าขาวบางชุบน้ำแล้วบิดหมาดๆคลุมพักเอาไว้
นำต้นหอม(หรือขึ้นฉ่ายก็ได้)ที่หั่นตามยาวโดยยาวประมาณ5นิ้วมาแช่น้ำร้อน5นาที(เพื่อให้เกิดความอ่อนตัวจะง่ายต่อการใช้มัดปากถุงทอง)แล้วนำขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำ
พอไส้เสร็จแผ่นแป้งพร้อมก็เตรียมห่อถุงทองได้เลยโดยตักไส้ที่ทำเตรียมไว้ใส่ลงบนแผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะไม่ต้องมากประมาณ1ช้อนชาครึ่งใช้มือจับริมแป้งขึ้นมาจีบค่อยๆจับจีบไปรอบๆให้มีลักษณะคล้ายถุงเสร็จแล้วเอาต้นหอมมาจับผูกสัก 2 ที ไม่ต้องแน่นมากเอาแค่ไม่หลุดก็พอทำเช่นนี้ไปจนหมด
ตั้งกระทะน้ำมันร้อนจัดด้วยไฟปานกลางก่อนจะหรี่ไฟลงเหลือครึ่งหนึ่งจากนั้นจึงนำถุงทองที่เตรียมไว้ใส่ลงไปทอดเวลาทอดกดให้ถุงทองจมน้ำมันมิฉะนั้นปากถุงจะบานเป็นดอกไม้ใกล้โรยดูไม่สวยทอดจนถุงทองสุกมีสีเหลืองทองก็ตักขึ้นพักไว้ให้สะเด็ดน้ำมันเพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จ
เจ๊ต่ายเผยเคล็ดลับการทอดถุงทองเพิ่มเติมว่าจะให้ถุงทองสวยต้องทอดน้ำมันท่วมกลีบถุงจะได้บานเต็มที่มีสีสม่ำเสมอหากใครมือใหม่ควรทอดทีละน้อยไม่งั้นจะกลับไม่ทันถุงทองจะไหม้เสียก่อน
"ถุงทองทอด" ทานกับน้ำจิ้มเปาะเปี๊ยะ หรือน้ำจิ้มบ๊วย หรือจะเป็นซอสศรีราชาก็อร่อยไปอีกแบบและต้องมีผักสด เช่น แตงกวา, ใบโหระพา, ผักกาดหอมทานแกล้มด้วยจะยิ่งอร่อยครบเครื่อง
ราคาขายถุงทองทอดคือ 6ชิ้น หรือ 6ถุง ราคา 20 บาท ส่วนปอเปี๊ยะทอดที่เจ๊ต่ายทำขายด้วยราคาคือ 5 ตัว 20 และทอดมันปลากรายขาย 8 ชิ้น 20 บาท
นี้ก็เป็นช่องทางสร้างรายได้เสริม หรืออาชีพเสริมจากการทำ-การขายถุงทองทอดใครสนใจอาชีพนี้ก็ลองฝึกฝนทำกันดูตามข้อมูลที่ได้หามาให้ได้เลย
"ถุงทองทอด" นี้ยังเหมาะสำหรับงานเลี้ยงสังสรรค์ต่างๆซึ่ง เจ๊ต่าย ก็รับสั่งทำไปออกงานนอกสถานที่ด้วย โดยติดต่อได้ที่
โทร.08-0202-6349และ0-2936-2076
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : เดลินิวส์
0 ความคิดเห็น: